• คุณหนูของลุงสิงห์ : MY SWEET LADY •
‼️ คำเตือน ‼️: ความสัมพันธุ์ระหว่างพระ-นางจะเป็นไปในรูปแบบ Dub-Con (เต็มใจโดยไม่เต็มใจ) และจบแบบสุขนิยมตามสไตล์นิยายขายฝัน .. ดังนั้น .. ใครที่ไม่ชอบงานแนวๆ นี้ โปรดหลีกเลี่ยงนะคะ
โหลด eBook ได้ตรงนี้✨👇✨
🌧 : โปรย : 🌧
ให้ตายเถอะ!
ภาพคุณหนูสาว รูปร่างหน้าตาปานนางฟ้านางสวรรค์ที่นอนแผ่หลาอยู่บนเตียง ปลีขาเรียวขาวข้างหนึ่งตกห้อยลงมาที่ด้านข้าง มันเลยทำให้กระโปรงเดรสสั้นท่องราตรีสีดำนั่นมันถลกร่นขึ้นไปอยู่เหนือหัวเข่านวลผ่อง จนแทบจะถึงโคนต้นขาอวบขาว
โอ้ย! .. นี่มันช่างน่ายวนเย้าเชิญชวนให้จินตนาการของเขาโบยบินไปถึงไหนต่อไหนไกลสุดกู่
แต่คนที่มีฐานะเป็นเพียงแค่คนขับรถผู้ซื่อสัตย์ก็พยายามหักห้ามใจตัว เดินตรงกลับไปที่คุณหนูสาวที่นอนสะลึมสะลือตาปรือ พยุงร่างเล็กบางให้ขึ้นมานั่งเพื่อให้ดื่มน้ำ เผื่อจะได้สร่างสติขึ้นมาบ้างสักเล็กน้อย แต่สายตาเจ้ากรรมของเขามันก็พลอยแต่จะซุกซนที่ดันเหลือบลงไปเห็นร่องทรวงอก อวบตูม ที่สวยเด่นและเต่งตึงอยู่ใต้ชุดเดรสราตรีคอกว้างคว้านลึกนั้นเข้าจนได้
ละม้ายสติของเขาจะเป็นราวเส้นลวดสลิงที่ถูกถ่วงน้ำหนักเกินพิกัดจนเกร็งแน่นและมันก็ขาดผึง! .. สะบัดไกล
สิงห์ไม่อาจอดทนข่มใจไว้ได้ ร่างสูงใหญ่ทรุดตัวคร่อมแขนสองข้าง ขังเทพธิดาของเขาไว้บนฟูกนอนนุ่มหนา ก่อนจะโน้มใบหน้าลงไป กลิ่นน้ำหอมราคาแสนแพงนั่นก็ช่างยั่วยวนใจชะมัด! ระดมพรมจูบ คลุกเคล้าลงไปทั่วใบหน้าสวยหวานใส อย่างไม่อาจจะหักห้ามใจไว้ได้อีกต่อไป
ซุกไซ้จมูกโด่งคมของเขาที่มีเชื้อสายอินเดียเจือปนอยู่จางๆ ที่ได้มาจากทางสายมารดา ดุจจะมุ่งค้นหาความหอมหวานไปทั่วทุกที่ แก้มนวล หน้าผากเนียน ปลายคาง เสยไซ้ไปตามซอกคอระหง ใบหูบอบบางนั่นก็ยังไม่รอดพ้นจากการรุกรานเล้าโลมโดยปาก จมูก และลิ้นเปียกชื้น อุ่นๆ ของเขาเลยสักตารางนิ้วเดียว
ยิ่งเธอคราง ..อื้อ..อืมมมม คล้ายคนจั๊กจี้ไปกับกลุ่มตอเคราเขียวครึ้มเป็นปื้นของเขาที่มันคมๆ
| 🍎 | FYI. สำหรับนักอ่านชาว Apple ที่น่ารักทั้งหลาย คุณสามารถโหลดนิยายในราคา THAI.฿ ที่ส่วนใหญ่จะได้ตรงตามราคาที่นักเขียนตั้งเอาไว้ทุกเรื่อง โดยการโหลดผ่านทาง Website : MEBmarket และอ่านนิยายผ่าน Application ได้ตามปกตินะคะ
..⋆.⋆｡..⋆.❀⋆｡..⋆.⋆｡..⋆.❀⋆｡..⋆..⋆｡..⋆.❀⋆｡..⋆..⋆｡
บทที่ 1 : โดนมอมยา
ภายในคฤหาสน์สีขาวที่อยู่กลางหมู่ไม้ใหญ่ร่มรื่นเขียวสดขจี ที่ซุกซ่อนบ้านตึกทรงทันสมัยหลังใหญ่โตไว้บนเนินหน้าหุบเขากว้าง ของจังหวัดที่โอบล้อมไปด้วยทิวเขาน้อยใหญ่ และที่นี่ .. มันมีเรื่องราวลับๆ บางอย่างแฝงเร้นอยู่ ….
เมชญานันท์ หรือ คุณหนูเมย์ เธอคือสาวน้อยเจ้าของใบหน้า หวาน ใส ด้วยผิวที่ผ่อง ละออตาตามประสาลูกสาวผู้ดีคนมีตระกูลที่มีเชื้อสายมาจากทางเหนือ โครงหน้ารูปไข่ เรียวละไม และมักจะสะดุดตาด้วยคิ้วคู่โก่ง คมเข้ม บวกกับผิวขาวอมชมพู ล้อมกรอบไว้ด้วยเส้นผมยาว ดำสลวย หยักศกโดยสะบัดปลายนิดๆ จึงดูไม่กระด้าง รูปร่างสมส่วน ไม่อ้วน ไม่ผอม ส่วนความสูงก็หนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้าเซนติเมตร เอวยี่สิบหก สะโพกสามสิบสอง อกตึง ไหล่ลาด หุ่นเพรียวบาง อรชร ปทุมถันทั้งสองก็เต็มแน่นและเต่งตึงแม้จะมีขนาดถึงสามสิบหกคัพซีก็ตามทีเถอะ ช่วงเอวก็คอดกิ่ว ต้นขาเรียวสวยและตึงเปรี๊ยะ เพราะหญิงสาวมักจะชอบว่ายน้ำออกกำลังเป็นประจำ ซึ่งเธอมีสระว่ายน้ำส่วนตัวทั้งที่บ้านและที่คอนโดฯที่พ่อแม่ซื้อไว้ช่วงที่ต้องเข้าไปเรียนในเมือง โหนกเนื้อตรงนั้นก็นูน..อูมสวยกำลังเหมาะ ยิ่งถ้าได้ใส่ชุดเดรสราตรีรัดรูปไปออกงานกับบิดามารดาเธอแล้วล่ะก็ ทั้งหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ในวงสังคมต่างจะมองมาด้วยสายตาละห้อย น้ำลายสอกันทั่วถ้วน
ที่สำคัญ คุณหนูสาวน้อยแสนสวยคนนี้เธอมีพื้นฐานดีมาก เนื่องจากมีบิดาเป็นนักธุรกิจใหญ่ที่มีหุ้นอยู่ในวงการสายการบินระหว่างประเทศเอกชน แม่ก็เป็นหัวหน้าคณะนักวิจัยการตลาดให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่ไฮเทคอีกแห่งหนึ่งของต่างประเทศเช่นกัน ที่ตอนนี้ต้องเดินทางไปประจำอยู่ทางโซนยุโรปถึงสามปี แต่ระหว่างนี้ก็ไปๆ มาๆ .. อีกอย่าง คุณหนูเมย์เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของครอบครัวนี้ นิสัยส่วนตัวจึงค่อนข้างเอาแต่ใจค่อนข้างมาก อาจจะเพราะความเก็บกดด้วยละมั้ง เพราะสมัยยามเด็กเธอถูกส่งตัวไปเรียนเมืองนอกอยู่กับคุณป้าผู้เจ้าระเบียบซะตั้งหลายปี จึงเติบโตมาอย่างสาวกึ่งสมัยใหม่และกึ่งไทยโบราณนิดๆ เพราะยังคงความโสดบริสุทธิ์เอาไว้ได้ อาจเนื่องมาจากก่อนจะไปเรียนเมืองนอกเธอได้รับปากพ่อแม่ไว้ว่าห้ามใจแตก ห้ามมีแฟนก่อนเรียนจบ ห้ามท้องก่อนแต่ง ถ้าจบมหาวิทยาลัยแล้วจะมีแฟนเป็นใครพ่อแม่จะไม่ว่า เพราะถือว่าโตแล้ว ต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเองให้ได้ ซึ่งมาปีนี้ เมชญานันท์ต้องกลับมาเรียนต่อที่เมืองไทย เพราะบิดามารดาจำเป็นต้องเดินทางไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศมากหน่อยในช่วงนี้ จึงกลัวว่าจะไม่มีคนคอยดูแลบ้านและเหล่าบริวารเก่าแก่ที่อยู่ทางนี้นั่นเอง
แต่ทันทีที่เธอได้หันไปสบตา 'ลุงสิงห์' ที่เป็นคนขับรถพ่อหม้ายประจำตัวของบิดาที่มีหน้าที่ต้องไปรอรับเธอที่สนามบินในวันนั้นเข้า หัวใจสาวก็หวั่นไหว ขนลุกซู่จนตัวชาคล้ายโดนไฟฟ้าช๊อตเล็กๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ หรืออาจเป็นเพราะคนขับรถวัยลุงคนนี้ยังคงดูหนุ่มฟ้อ หล่อเฟี้ยว หุ่นล่ำบึกราวนายแบบหนุ่มๆ สมัยนี้ที่ชอบเล่นกล้าม ลีนๆ แน่นๆ กันอยู่เลยกระมัง และก็..แหม เขาคนนี้เองก็สมัยก่อนก็คือคนที่เธอแอบชอบ แอบประทับใจในตัวเขามาตั้งแต่เริ่มแตกเนื้อสาวเลยด้วยสิ ไม่เจอกันมาตั้งหลายปี แต่เขาก็ไม่มีวี่แววว่าจะมีข่าวอยากแต่งงานใหม่ด้วยนี่นา
และหากให้เล่าถึงอดีตว่าทำไมเธอถึงประทับใจในตัวเขานัก นั่นก็เพราะยามเมื่อสมัยเธอเป็นเด็กเขามักจะเคยช่วยชีวิตเด็กซนอย่างเธอไว้หลายครั้งหลายหน ทั้งจากการไปเที่ยวทะเลที่เด็กน้อยเอาแต่ใจ ไม่ฟังใคร จึงไม่สนใจคำเตือนของพ่อแม่ว่าแดดมันร้อนนัก ยังจะออกไปเล่นน้ำทะเลไม่ได้ แต่หากแค่เผลอเพียงแพล็บเดียว เด็กหญิงก็แวบหายไปจากสายตาของพี่เลี้ยงและป้าแม่บ้านที่กว่าจะรู้ว่าคุณหนูน้อยหายตัวไปและรีบออกตามหากันจนจ้าละวุ่น และก็เป็นเขาน่ะแหละที่หันไปเห็นรอยเท้าเธอบนผืนทรายเป็นคนแรก เลยรีบวิ่งตามออกมาทันเวลาเด็กน้อยตัวเบาๆ ผู้เป็นตะคริวที่กำลังถูกคลื่นซัดออกจากฝั่ง เขาก็โจนตัวว่ายน้ำอย่างกับโลมา..มาคว้าตัวเธอไว้ได้
และหลังจากนั้นก็คือการจะตกต้นไม้นั่นอีกหน เพราะที่บ้านของคุณย่าของเธอมีสวนผลไม้ปลูกผสมกัน ตอนนั้นคุณหนูน้อยเธอนึกอยากกินมะม่วงที่ได้เด็ดจากมือตัวเอง และด้วยความความคิดที่ตื่นเต้น เพราะเธอเคยเห็นเด็กๆ ข้างสวนยังมาปีนต้นฝรั่งเล่นกันได้ น่าสนุกจะตาย คุณหนูจอมแก่นจึงอยากเอาอย่างบ้าง หาทางค่อยๆ ปีนป่ายต้นไม้ใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ ในใจก็กระหยิ่ม เรานี่เก่งเน๊อะ โดยไม่รู้ ไม่คิดว่ามันจะมีฝูงมดแดงแฝงอยู่เยอะมาก พอเธอโดนมดกรามใหญหัวโตนั่นกัดติดจนก้นโด่ง เจ็บจี๊ด เด็กน้อยเลยเผลอปล่อยมือ ที่แม้จะยังปีนขึ้นไปได้ไม่สูง หากแต่ถ้าลงได้หงายหลังแล้วหล่นมาหัวฟาดพื้นดินแข็งๆ ถ้าไม่คอหักตายก็คงเลี้ยงไม่โต โชคดีอีกเช่นกันที่สิงห์กำลังแอบปีนป่ายตามขึ้นไปอีกทาง เพราะเขาสังเกตเห็นกิ่งไม้ไหวๆ แล้วแทบจะช๊อตตายที่เห็นว่าเป็นเธอ แต่ไอ้ครั่นจะส่งเสียงตะโกนเรียกให้ไต่ลงมาเอง ขืนเป็นงั้นก็เกรงเด็กน้อยอาจจะตกใจจนหงายหลังหล่นมาละเรื่องใหญ่แน่ๆ เลยตัดสินใจจะแอบปีนขึ้นไปรับตัวเธอลงมาเองน่าจะดีกว่า แล้วก็ตามคาด พอเธอโดนมดกัด เลยพลาดจะหงายหลัง อ้อมแขนแกร่งจึงจึงได้คว้าเอวเล็กเอาไว้ได้ทันอีกครั้ง รอดตายไปอีกอย่างหวุดหวิดอีกหน เธอจึงเป็นหนี้ชีวิตเขาตั้งเยอะ
แต่ที่ไม่รู้ .. ว่าความรู้สึกชะงักงัน เสียววาบจนตัวชานี่ก็ไม่ได้จะเกิดแต่เธอผู้เดียวซะเมื่อไร
ซึ่งสิงห์เอง ยามเมื่อเจอคุณหนูน้อยที่น่ารัก ผ่องพรรณราวนางฟ้าของเขาหนนี้เข้า จิตใจหม้ายหนุ่มก็ปั่นป่วน หวั่นไหว ไม่แพ้กัน
กลับมาหนนี้ … นี่มันเทพธิดาชัดๆ สิ .. ให้ตาย!
---------------
และพอสาวน้อยกลับมาอยู่บ้านได้ไม่ทันครบอาทิตย์ดี ประมุขใหญ่ของบ้านก็เรียกทั้งเขาทั้งคุณหนู แม่บ้านมาสั่งการจากนั้นก็บินไปต่างประเทศ เพราะดูเหมือนปัญหาจะเร่งเร้าเข้ามาแล้ว
จากนั้นไม่ทันสองสัปดาห์ก็เกิดเรื่อง ...
"ลุงสิงห์ อยู่ตรงไหน? รีบมารับยัยเมย์ที เร็วๆ หน่อยนะ ท่าทางนางจะเมาหนักมากไม่รู้เรื่องแล้ว"
"ครับคุณหนูพอร์ช ผมจะรีบไปรอรับที่หน้าผับเดี๋ยวนี้เลย"
คนขับรถหนุ่มตัวใหญ่วัยคราวลุงรีบสตาร์ทรถตีอ้อมไปรับที่ด้านหน้าแหล่งบันเทิงชั้นนำ ในย่านหรูที่ขึ้นชื่อว่าราคาที่ดินแพงหูฉีกแห่งนี้อย่างร้อนใจ แม้ปกติจะมีใบหน้าเคร่งขรึม นิ่ง ดุ แต่ใครจะรู้ว่าใต้ใบหน้านิ่งๆ เย็นๆ ของเขานั่น มันแอบกระวนกระวายใจไปไหนต่อไหนแล้ว
เตือนแล้วก็ไม่ฟัง! ไอ้นิสัยดื้อรั้น ชอบเล่นกับไฟนี่ทำไมมันไม่เคยเปลี่ยนสักทีวะ ไม่เข็ดตั้งแต่เล็กจนโต
บอกก็บอกแล้วนะว่านี่มันคือสถานที่อโคจร แม้จะรู้กันดีว่าจะมีแต่ลูกเศรษฐี คนในสังคมไฮโซฯเขานิยมมาเที่ยวกันเป็นส่วนใหญ่ แต่สถานที่ร้อยพ่อพันแม่ แสงสีถ้าไม่มืดสลัว ก็แสบร้อนปวดสายตา ที่สำคัญ ของมึนเมาชนิดต่างๆ ไหนจะไอ้พวกไม่ประสงค์ดี เสือผู้หญิงนักล่ายามราตรีที่แฝงตัวอีกก็เยอะแยะ เตือนเท่าไรก็ไม่ฟัง!!
แต่อย่างว่ามัง คนที่เพิ่งได้ก้าวเท้ากลับมาอยู่บ้านเกิดไม่ถึงเดือน เพื่อนฝูงเก่าๆ ของเธอยังติดต่อทางแชทผ่านโซเชียลกันอยู่ เมื่อรู้ว่าเพื่อนกลับมาจึงมีการนัดเจอกันบ้าง อย่างคืนนี้ก็ชวนกันออกมาเที่ยวสังสรรค์เปิดหูเปิดตา ซึ่งส่วนใหญ่ก็แกงค์เก่าๆ เหล่าเพื่อนชนชั้นคุณหนูคุณชายด้วยกันทั้งนั้นแหละ ซึ่งคุณหนูสาวแสนสวยหัวรั้นมักจะหน้าหงิกบอกเขาว่า .. ไม่น่าจะเป็นอะไร ลุงสิงห์นี่ทำไมไดโนเสาร์ เต่าโบราณเอามากๆ .. ชอบฉุนเฉียวใส่แบบนี้ตลอดตอนเตือนด้วยความหวังดี … แล้วเป็นไงล่ะ นี่ถ้าโดนแอบมอมยาชนิดร้ายแรงจนถึงเสียชีวิตอย่างที่มันเคยมีข่าวครึกโครมออกมาหลายๆ คดีแล้วนั้นละ จะว่าอย่างไร!
ยิ่งคิดยิ่งร้อนใจจนอกเขาแทบระเบิด แต่ยังคงตีหน้านิ่ง
สิงห์เอื้อมมือไปประคองรับร่างบอบบางน้อยๆ ในชุดแฮงค์เอ้าท์ยามราตรีที่วาบหวามแล้วแทบอยากจะแอบส่ายหัว ดูท่าทางเธอแล้วก็ยังน่าจะยังพอมีสติดีอยู่ ไม่อ้วก ไม่ได้หมดสติอะไรอย่างที่เขานึกกลัวอยู่ แต่แค่เดินเซๆ ถามอะไรยังพอจะตอบได้ แต่อ้อแอ้แบบคนเมาเหล้าปกติ บางทีเธออาจแค่หยิบแก้วผิดใครมา หรืออาจลองสั่งเหล้ายี่ห้อแรงๆ มาดื่มก็ได้มัง
แต่ให้ตายเถอะ!
ตอนแรกมามีสติดีๆ ชุดที่เธอใส่มันก็สวยสง่า เซ็กซี่สมวัยดีอยู่หรอก แต่มาตอนนี้สิ ทั้งเลื่อนทั้งร่น ตรงนั้นหล่น ตรงนี้แวม
และก็ให้ตายอีกหนเถอะ แม่จ้าว! เล่นเอา 'ไอ้คุณชายน้อย' ของเขาค่อยๆ ตื่นตัวมาจะแข็งปั๋งแล้วนั่นน่ะ
รีบถอดเสื้อนอกตนเองมาคลุมไหล่ให้เจ้านายสาว กันของสวยๆ งามๆ อวบๆ ขาวๆ มันจะไปกระทบตาเสือหิวแถวนี้เข้า
และก็แอบนึกแปลกใจไม่เบา ปกติคุณหนูสาวของเขาก็หัวนอก เรื่องเหล้าเรื่องเบียร์ไม่น่าจะคออ่อนขนาดนี้ได้ไม่ใช่หรือ
"ทำไมเมาหนักขนาดนี้ คุณหนูดื่มไปกี่แก้วกันครับนี่" หันไปถามคุณหนูสาวอีกคนที่เป็นเพื่อนสาวคนสนิทกันมานานตั้งแต่เด็ก แถมยังเคยไปเรียนต่างประเทศมาเหมือนกัน แต่อยู่กันคนละประเทศกับเมชญานันท์
"ก็ไม่กี่แก้วหรอก แต่ฉันกำลังสงสัยว่านางจะโดนมอมยา ไม่เคยคิดสักนิดหรอกว่ามันจะมีอยู่จริงๆ ยังไงก็เถอะ ลุงสิงห์รีบพากลับไปก่อน ฉันไม่รู้ด้วยว่าเราอาจจะโดนไอ้คนมอมยามันแอบตามออกมาด้วยหรือเปล่า แต่เพื่อนกับคนอื่นไม่เห็นจะเป็นอะไรหรอก ฉันก็ไม่มีนะอาการเมา แค่เริ่มรู้สึกไม่ดี ก็เลยอยากจะดึงตัวยัยเมย์แยกออกมาก่อน"
..⋆.🍂⋆｡..⋆.❀⋆｡..⋆.🍂⋆｡..⋆.❀⋆｡..⋆..🍂⋆｡..⋆.❀⋆｡..⋆..🍂⋆｡
บทที่ 2 : ย่ามใจหนักขึ้น
"คุณหนูครับ รู้สึกมีอาการแปลกๆ อะไรไหม" เขาเองก็หวั่นๆ เลยจะเช็คอาการให้แน่
"มึนๆ มาวววอะแหละ .. อยากกลับไปน๊อนนนน" คนตอบ..ตอบอ้อแอ้ เสียงสูงเสียงต่ำ แต่คนฟังก็ยังหน้าเคร่ง
"ไม่ร้อน ไม่หนาว .. ไม่..เอ่อ กระสับกระส่ายอะไรใช่ไหม"
"ม่ายยยยอ่า .. สับส่ายอาร่าย อยากจะนอน ลุงสิงห์อย่าเซ้าซี้"
ยังจำชื่อเขาได้ ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี แต่ก็ไม่แน่ เพราะพอพูดจบคนที่เขารับมาประคองก็คออ่อน ซบซอกไหล่เขาซะนิ่งๆ หน้าตาเฉย ดีแค่ว่ายังรู้สึกถึงลมหายใจร้อนๆ ที่รินรดต้นคอเขา เล่นเอาคนประคองชักจะตื่นแข็งปั๋งจนเจ็บปวดหนึบขึ้นมาอีก
"ครับ งั้น..เดี๋ยวเรากลับเลย" คนโดนคนเมาดุตอบกุกกักในลำคอ
"แล้วคุณหนูพอร์ชจะกลับด้วยกันไหมครับ"
"อื้อ กลับ นี่ก็โทรเรียกให้ตาลุงหน้าผีมารอรับอยู่แล้ว เดี๋ยวคงงุ่มง่ามมามัง"
"อ่อ ... ครับ .. นั่นครับ มาโน่นละ"
เขาพยักหน้าทักทายคนตัวใหญ่อย่างกับยักษ์ไม่พอยังจะแถมหน้าตาน่ากลัวที่เดินดุ่มๆ ตรงมา ขนาดการ์ดหน้าโหดที่ยืนเฝ้าผับยังหลบให้ชายที่ใบหน้าครึ่งหนึ่งโดนไฟคลอกจนหน้าอัปลักษณ์ ซึ่งไม่รู้เหมือนกันน่ะว่าในอดีตเขาไปโดนอะไรมา เพราะยังไม่มีใครเคยกล้าถาม
อีกอย่าง สิงห์เองได้ฟังน้ำเสียงขุ่นๆ ของสาวน้อยที่ยังช่วยยืนประคองเพื่อนอีกข้างแล้วอยากแอบปาดเหงื่อนะถ้าทำได้
นี่ก็คุณหนูขี้เอาแต่ใจ หยิ่งๆ ถือตัวแบ่งชนชั้นเข้าขั้นร้ายกาจคนหนึ่งเหมือนกันนะ โชคดีที่คุณหนูของเขาไม่มีนิสัยนี้
และเท่าที่สังเกตดู นายรามก็คงมักจะคือเหยื่ออารมณ์ของแม่สาวน้อยคนนี้ได้เลยมัง ดูท่าทางว่าคุณหนูพอร์ชจะค่อนข้างเกลียดขี้หน้าเขาขั้นสุดอยู่ด้วย แต่กระนั้นก็ตามแต่เถอะ เห็นเวลาทุกครั้งที่ตกทุกข์ได้อยากอะไรก็ตามที ถ้าสิงห์หรือใครได้มีโอกาสถามคุณหนูคนสวยคนนี้ละก็มักจะได้ยินชื่อ 'นายราม' ไม่ก็ 'ตาลุงหน้าผี' คนเดียวแหละที่มักจะมาวนเวียนอยู่ใกล้คุณหนูสาวคนสวยคนนี้จนคล้ายนายรามจะกลายเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวเธอไปซะแล้ว แต่เหมือนคนเอ่ยชื่อเขาเสียงสะบัดๆ จะไม่เคยรู้ตัวเอาซะเลย
"มาช้า! งุ่มง่าม" ใบหน้างดงาม หงิกง้ำ บ่งบอกความไม่สบอารมณ์
"ครับ" คนโดนดุ ยืนรับคำนิ่งๆ
"ไปช่วยลุงสิงห์ประคองยัยเมย์สิ โน่น" เจ้านายตัวเล็ก ขาว ชี้นิ้วเรียวเสลา สั่งคนตัวใหญ่ ผิวคล้ำออกทองแดง
"ครับ"
"ไม่เป็นไร รถจอดอยู่ใกล้ๆ ฉันอุ้มไปได้เลย นายแค่ช่วยไปเปิดประตูรถให้หน่อยดีกว่า"
สิงห์รีบบอกเพื่อนร่วมอาชีพที่อายุอานามใกล้กันและรู้จักกันดีจนจะเรียกว่าเป็นเพื่อนกันก็ได้ เพราะมักจะเจอหน้ากันอยู่บ่อยๆ ตามลานจอดรถของโรงแรมห้าดาวที่สังคมผู้ดีหรือเหล่านักธุรกิจชนชั้นผู้นำทั้งหลายมักจะไปพบปะสังสรรค์กัน แต่ตอนนี้นายสาวตัวน้อยของเขาค่อนข้างจะโป๊อยู่ เขาเลยไม่อยากให้ใครเข้ามาใกล้มาก จึงกดรีโมทกุญแจปลดล็อครถเพื่อที่รามจะได้เปิดประตูให้ ก่อนช้อนใต้เข่าคุณหนูของเขาขึ้นมาอุ้ม
คนอัปลักษณ์หน้าดุเดินนำไปเปิดประตูข้างคนขับ ปรับเบาะให้เอนพอวางคนร่างเล็กบางได้สะดวก
ขณะรถแล่นอยู่ในถนนที่ค่อนข้างโล่งสักหน่อย แต่คนขับรถวัยลุงยังต้องคอยชำเลืองดูคุณหนูของเขาอยู่เป็นระยะ เปิดแอร์ให้เธอรู้สึกเย็นๆ จะได้สดชื่นขึ้น แต่ก็ยังเห็นสาวน้อยสายเมายังหลับอยู่ จนกระทั่งได้ยินเหมือนเธอจะบ่นอะไรไม่รู้อื้ออ่า อึดอัด เขาจึงเตะเท้าชะลอความเร็วของยานพาหนะจากยุโรปคันโต หันไปมองคนที่ตอนนี้เริ่มขยับตัวตื่นมานอนตาปรือ ทรวงอกสะท้อนขึ้นลงจากการสูดลมหายใจเข้าหนักๆ ยาวๆ ว่าเธออาจจะผิดปกติอะไรบ้างไหมอย่างเป็นห่วง สักเดี๋ยวเขาจึงตัดสินใจเลี้ยวรถไปทางคอนโดฯ ที่พักในเมืองของเมชญานันท์อย่างรวดเร็ว
"รู้สึกเป็นไงบ้างครับ .. ที่เวียนหัว ดีขึ้นไหม"
"ไม่อะ ..ใกล้จะถึงบ้านรึยัง?" เธอถาม ทำเสียงเหมือนยามเป็นเด็กงอแงเอาแต่ใจ
"งั้น คืนนี้ค้างที่คอนโดในเมืองดีกว่าครับคุณหนู เผื่อมีอาการอะไรผิดปกติมากกว่านี้ ที่นี่ใกล้หมอ สะดวกกว่า"
เขาบอกเธอแบบนั้น
"อื้ออออ .. เวียนหัวจัง คิดอะไรไม่ออก"
ไม่ถึงอึดใจ รถก็มาจอดถึงคอนโดฯหรูของคุณหนูสาว พยุงร่างบางๆ ไปขึ้นลิฟท์ที่เธอเองเป็นคนยื่นกระเป๋าให้เขาควานหาคีย์การ์ดเพื่อปลดล็อคชั้นพิเศษให้แต่โดยดี ซึ่งตอนนี้เจ้าตัวยังคงตัวอ่อนปวกเปียกตาปรือและยังต้องยืนพิง ซุกไหล่คนร่างใหญ่ไว้เป็นหลัก จนเนื้อตัวที่อ่อนนุ่ม ละมุน ระคนกับกลิ่นหอมรัญจวนใจจากเรือนกายที่แตะแต้มไว้ด้วยน้ำหอมชั้นดี อีกทั้งเส้นผมสยายยาวก็สะท้อนแสงไฟภายในกล่องเหล็กเล็กแคบจนเป็นประกายงามเงา ซึ่งภาพเหล่านี้มันส่องสะท้อนอยู่ยนกระจกเงาที่แปะแทนผนังของอีกฟากฝั่ง ยิ่งจะทำเอาท่อนลำของเขาที่ตุงคับแน่นอยู่ภายในยิ่งจะขยับขยายตื่นขึ้นมาอีกหน อารมณ์ปรารถนาที่พยายามเก็บกดดูเหมือนมันจะทะยานพุ่งขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะลดลง และพอมาถึงหน้าห้อง สิงห์สอดบัตรกดรหัสผ่านประตูเพราะรู้ดีว่าคุณหนูของเขาจะเก็บซ่อนมันไว้ตรงไหน
คนตัวใหญ่ประคองวางร่างกายบอบบางที่ระทดระทวยราบลงบนเตียงหนานุ่ม เริ่มลงมือปลดเสื้อคลุมตัวหนาของเขาที่ห่อหุ้มกายของเธอออก จะได้นอนสบายๆ แต่คุณหนูสาวกับส่ายศีรษะไปมา เหมือนพยายามขับไล่ความมึนงง ก่อนจะครางออกมาเสียงแผ่ว
"ที่นี่ที่ไหนหรอ?..."
"ในห้องนอนคุณหนู ที่คอนโดฯ … เดี๋ยวผมจะไปเอาผ้าชุบน้ำเย็นมาเช็ดหน้าให้"
ชายหนุ่มเดินกลับไปหาผ้าชุบน้ำ และไม่ลืมที่จะเดินไปเปิดมินิบาร์ หาน้ำเย็นๆ มาให้เธอดื่ม แต่พอเดินกลับเข้าห้องนอนกว้างอีกหน ก็ดันมาเจอภาพที่เห็นแบบนั้นมันช่างยั่วอารมณ์ที่อ่อนไหวของเขาให้เตลิดไปไกลจากที่เคย
ให้ตายเถอะ!
ภาพคุณหนูสาว รูปร่างหน้าตาปานนางฟ้านางสวรรค์ที่นอนแผ่หลาอยู่บนเตียง ปลีขาเรียวขาวข้างหนึ่งตกห้อยลงมาที่ด้านข้าง มันเลยทำให้กระโปรงเดรสสั้นท่องราตรีสีดำนั่นมันถลกร่นขึ้นไปอยู่เหนือหัวเข่านวลผ่อง จนแทบจะถึงโคนต้นขาอวบขาว
โอ้ย! .. นี่มันช่างน่ายวนเย้าเชิญชวนให้จินตนาการของเขาโบยบินไปถึงไหนต่อไหนไกลสุดกู่
แต่คนที่มีฐานะเป็นเพียงแค่คนขับรถผู้ซื่อสัตย์ก็พยายามหักห้ามใจตัว เดินตรงกลับไปที่คุณหนูสาวที่นอนสะลึมสะลือตาปรือ พยุงร่างเล็กบางให้ขึ้นมานั่งเพื่อให้ดื่มน้ำ เผื่อจะได้สร่างสติขึ้นมาบ้างสักเล็กน้อย แต่สายตาเจ้ากรรมของเขามันก็พลอยแต่จะซุกซนที่ดันเหลือบลงไปเห็นร่องทรวงอก อวบตูม ที่สวยเด่นและเต่งตึงอยู่ใต้ชุดเดรสราตรีคอกว้างคว้านลึกนั้นเข้าจนได้
ละม้ายสติของเขาจะเป็นราวเส้นลวดสลิงที่ถูกถ่วงน้ำหนักเกินพิกัดจนเกร็งแน่นและมันก็ขาดผึง! .. สะบัดไกล
สิงห์ไม่อาจอดทนข่มใจไว้ได้ ร่างสูงใหญ่ทรุดตัวคร่อมแขนสองข้าง ขังเทพธิดาของเขาไว้บนฟูกนอนนุ่มหนา ก่อนจะโน้มใบหน้าลงไป กลิ่นน้ำหอมราคาแสนแพงนั่นก็ช่างยั่วยวนใจชะมัด! ระดมพรมจูบ คลุกเคล้าลงไปทั่วใบหน้าสวยหวานใส อย่างไม่อาจจะหักห้ามใจไว้ได้อีกต่อไป
ซุกไซ้จมูกโด่งคมของเขาที่มีเชื้อสายอินเดียเจือปนอยู่จางๆ ที่ได้มาจากทางสายมารดา ดุจจะมุ่งค้นหาความหอมหวานไปทั่วทุกที่ แก้มนวล หน้าผากเนียน ปลายคาง เสยไซ้ไปตามซอกคอระหง ใบหูบอบบางนั่นก็ยังไม่รอดพ้นจากการรุกรานเล้าโลมโดยปาก จมูก และลิ้นเปียกชื้น อุ่นๆ ของเขาเลยสักตารางนิ้วเดียว
ยิ่งเธอคราง ..อื้อ..อืมมมม คล้ายคนจั๊กจี้ไปกับกลุ่มตอเคราเขียวครึ้มเป็นปื้นของเขาที่มันคมๆ
เวลานี้หัวใจเขาโลดเล่นและมันเต้นแรงมาก เหมือนจะเด้งออกมานอกอกด้วยความตื่นเต้นที่เก็บกดไว้ เหมือนความฝันทั้งหลายของเขามันกำลังจะกลายเป็นจริง ริมฝีปากหยักลึก ร้อน บดขยี้เข้ากับริมฝีปากรูปกระจับเต็มอิ่มอย่างที่คนใต้ร่างยังมึนงง มันจึงยิ่งไปเพิ่มการเรียกร้อง เร่าร้อน และการเสาะหาการสนองตอบจากริมฝีปากอิ่มสวย หวานละมุนนั้นอยู่กลายๆ
รสชาติดีชะมัด! ที่บนกลีบปากสวยได้รูปของเมชญานันท์ .. และด้วยความหลงใหลมึนเมา เขาเริ่มทวีซุกหน้าคลุกเคล้าอย่างรุนแรงและดูดดื่ม สูดความหอมหวานฉ่ำสดชื่นอย่างอิ่มเต็มอารมณ์ใคร่ ควานลิ้นร้อนเร่า รุกรานเข้าไปในช่องแคบชุ่มๆ อุ่นและหอมละมุนจากรสเครื่องดื่มมึนเมาที่เธอดื่มลงไปเมื่อก่อนหน้า .. มันยังมีความหอมหวานและขมแต้มอยู่บนปลายลิ้นสาว อย่างมึนเมารสกายสาว รุนแรงและว่องไว ความนุ่มนิ่มเปียกชื้นของเรียวปากอิ่มสีชมพูและลิ้นนุ่มนิ่มของนางฟ้าคนสวยของเขาทำเอาชายวัยลุงที่แม้จะเป็นเพียงคนขับรถในบ้านเศรษฐี แต่เขาก็เป็นหนุ่มใหญ่ที่แต่งกายสะอาดและมาดดี แว่วตาก็สดใสฉลาดเฉลียวฉายชัดตลอดมา ด้วยเหตุนี้จึงไม่ใช่เรื่องยากที่เขาจะไม่เคยขาดผู้หญิงมาปรนเปรอ แต่เธอคนนี้กลับมีรสชาติที่หอมหวานบาดใจ ดับกระหายเขาได้มากที่สุด … แถมเสียงหวานๆ ที่คราง .. อือออออ อืมมมม..นั่น มันเจือความรู้สึกพึงพอใจเพราะเธอไม่ได้มีอาการปัดป้อง อย่างนี้แล้ว มันจึงทำให้เขาอย่างย่ามใจหนักขึ้นไปอีก
ถอนปากออก เพื่อเปลี่ยนมาไล่ระดมจูบไปทั่วใบหน้านวลผ่อง ไซ้ซอนลงมาที่ซอกคอระหงขาวเนียน กลิ่นสาวแรกแย้มหอมหวนชวนให้ไฟปรารถนาคุโชนจนยากจะหยุดยั้งใจ มือไม้ใหญ่กร้านของเขาก็ไม่เคยจะอยู่นิ่งเปล่า มันลูบไล้เคล้านคลึงไปทั่วหน้าอกสาว และลำแขนเปลือยเปล่าเนียนยาวราวกับรูปปั้นจากนักประติมากรรมชั้นยอด ผิวพรรณอันละเอียดอ่อนหรือขาวราวหยกล้ำค่าราคาแพง
..⋆.🍂⋆｡..⋆.❀⋆｡..⋆.🍂⋆｡..⋆.❀⋆｡..⋆..🍂⋆｡..⋆.❀⋆｡..⋆..🍂⋆｡