* กดรับ Link นิยายรสแซ่บได้ที่ปกทุกปกเลยจ้าา *

niyayZAP Related E-Books Related E-Books Related E-Books Related E-Books Series E-Books niyayZAP Related E-Books Series E-Books Series E-Books Related E-Books Series E-Books Series E-Books Related E-Books Series E-Books Related E-Books Series E-Books Series E-Books Series E-Books Related E-Books Series E-Books Related E-Books Series E-Books Series E-Books Series E-Books Series E-Books Series E-Books Series E-Books niyayZAP Series เจ้าสาวหญ้าอ่อน Series เจ้าสาวหญ้าอ่อน Series เจ้าสาวหญ้าอ่อน Series เจ้าสาวหญ้าอ่อน Series เจ้าสาวหญ้าอ่อน niyayZAP Series E-Books Series E-Books Series E-Books Series E-Books niyayZAP niyayZAP niyayZAP niyayZAP niyayZAP Related E-Books niyayZAP niyayZAP Related E-Books Series E-Books Series E-Books  Series E-Books

วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2566

*☆ สุดสวาทไฮโซรสแซบส์! ☆*


บทที่ 1

มือขาวนวลจากร่างสาวงามที่ผิวพรรณมีน้ำมีนวลจนดูราวกับมันแทบจะเปล่งประกายได้ วางกระเป๋าเดินทางใบขนาดย่อมลงบนเตียงนุ่มในห้องนอนรับรองแขกที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น ที่เจ้าตัวเองก็ยังไม่ค่อยจะคุ้นชินกับความเรียบง่ายของบ้านไร่แห่งนี้นักเลย

'อินทิรา' หรือ เอริล ฉาง สาวน้อยในวงสังคมไฮโซไซตี้ ลูกครึ่งไทย-ฮ่องกง ดีกรีเป็นถึงลูกเจ้าสาวคนเดียวของนักธุรกิจนำเครื่องสำอางเข้าจากต่างประเทศเกรดพรีเมี่ยมจากทุกยี่ห้อชั้นนำต่างๆ ซึ่งตัวหล่อนเองที่พอเรียนจบมาจากต่างประเทศ ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นถึงผู้บริหารฝ่ายประชาสัมพันธ์

แต่วันนี้มันมีอันต้องสิ้นสุดลง นับตั้งแต่มีคลิปที่อีริค หนุ่มคนรักที่หล่อนหมายมั่นหนักหนาว่าเขาจะขอแต่งงานกับหล่อนในเร็ววันนี้ แต่ทุกอย่างก็มาพังลงเพราะไอ้ผู้ชายจอมเฮงซวย ซังกะบ๊วย!! ที่มันไม่ได้รักหล่อนจริงๆ ที่ดันทำคลิปแอบถ่ายระหว่างที่ทั้งคู่กำลังเมามัน โรมรันพันตรู ต่อสู้แซ่บเวอร์กันอยู่บนเตียงหลุดออกมา จนมันกระฉ่อนไปทั่วทั้งวงการ ไม่ว่าจะวงการธุรกิจ วงสังคมไฮโซฯ หรือแม้แต่กระทั่งเครือญาติเชื้อสายผู้ดี๊ผู้ดีทางฝ่ายคุณแม่ของหล่อนก็ออกมาประนามในความผิดพลาดที่เกิดครั้งนี้ว่ามันช่างน่าอับอายขายขี้หน้าขนาดไหน 

ที่พอหล่อนไปปรึกษาถามหาความรับผิดชอบ ไอ้คนต้นเรื่องมันก็ปากแข็งปฏิเสธ แถมยังจะอ้างขอเลิกก็เพราะหล่อนนั่นละที่ทำให้มันอับอาย และชิงทำตัวจางหายไปต่อหน้าต่อตา ก่อนไปก็ยังจะมาพูดให้เจ็บใจว่ามันคงจะหาเงินมาเลี้ยงดูหล่อนอย่างดีอย่างที่เคยหล่อนเป็นอยู่ เป็นคุณหนูไฮโซฯผู้เอาแต่ใจได้ไม่ไหวหรอก 

โธ่...ไอ้หอกเอ้ย!! แล้วตอนคบกันวันแรกๆ ทำไมไม่เห็นมันจะพูดอย่างนี้เลยล่ะ!!

แรกๆ ที่เกิดเรื่องอินทิราเองก็ตกใจจนตัวชาเมื่อเห็นข่าว ทั้งเพื่อนสาวเพื่อนชายก็เข้ามาปลอบว่าช่างมันเถอะ! อย่าคิดอะไรเยอะ ... 

ใครๆ เขาก็ทำกัน ... 

ใช่สิ! พวกนั้นมันก็พูดได้นิ ในเมื่อข่าวนี้มันเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นกับหล่อนนี่นา มันไม่ใช่ข่าวที่เกิดขึ้นกับ พวกเขาเองนี่หว่า!!

เมื่อหล่อนยังโอดครวญ งอแงเหวี่ยงวีน เมาหัวทิ่มไม่เลิก สงสัยยัยมะเฟือง 'เฟื่องฟ้า' เพื่อนรักสมัยเรียนกันมาตั้งแต่มัธยมต้นที่ยังคบกันนาน อดทนเห็นหล่อนเหลวไหล หน้าที่การงานป่นปี้เพราะเรื่องบัดสีฉาวโฉ่มันมาก ก็ไอ้เจ้าคลิปนั่นน่ะ มันดังในเมืองไทยไม่พอ แต่มันพากันปรากฏวนว่อนอยู่ในเน็ตแค่ไม่กี่สัปดาห์ ก็ไปโชว์หราอยู่บนเว็บต่างประเทศโน้นแล้ว

และที่มันน่าเจ็บใจหลายๆ หน เพราะเมื่อคืนนี้ในผับ หล่อนยังได้ยินผู้ชายปากหมามันเมาท์กันสนุกปากอยู่ในวงเหล้าเมื่อคืนนี้ว่า แรกที่เห็นในคลิป พวกมันคิดว่าหล่อนเป็นนางเอก AV ระดับ 5 สตาร์ เพราะหน้าตาอินทิราสวย ก็แบบหมวยๆ นี่ละ อีกทั้งผิวที่ขาวผ่องผุดผาดขนาดนั้น แถมลีลายังดูแซ่บร้อนแรงซะจนอยากจะมุดจอไปร่วมวง 

โอ้ย!! แล้วจะไม่ให้หล่อนคลั่งได้อย่างไรล่ะ!!

"งั้น เอางี้ดีไหมล่ะเอริล?" เสียงยัยมะเฟืองที่นั่งเท้า คางมองเพื่อนสาวที่ฟุบหน้า นัวเนียๆ อยู่กับเคาน์เตอร์บาร์  ภายในคอนโดฯหรูหราที่ผุดอยู่กลางย่านแหล่งธุรกิจ ซึ่งมันใช้เป็นที่อาศัยในระหว่างทำงานของอินทิราเอง

"ดีกะผีอะไรของแกล่ะยะยัยม้าเฟืองเน่า!! นี่แล้วแกคิดว่าอาเสือของแกเขาจะยินดี ยินยอมเต็มใจให้ฉันไปอยู่กะเค้าด้วยหรือไง ฉันทำนาไถไร่กะใครเขาไม่เป็นนะเฟ้ย แกก็รู้ดี" ท้ายประโยคมีเสียงงึมๆ งำๆ จากคนลิ้นไก่อ่อน

"บ้า! ใครเขาจะใช้ให้ไฮโซฯอย่างหล่อนไปแตะต้อง งานแบบนั้นกันล่ะยะ ประเดี๋ยวเผือกมันในไร่อ้อยของคุณอาเสือจะได้แห่แหนกันแห้งตายห่าหมดกันพอดี" เพื่อนผู้แสนดีมีอาการส่งค้อนขวับ!!

"ฉันก็แค่แนะให้แกไปกบดานซุกหัวทำตัวชิลๆ แบบคนหลบไปพักตากอากาศอะไรแบบเนี้ย ทำเป็นไหม? แล้วแกดันดีดดิ้นทำไม? ชวนให้ไปเที่ยวต่างประเทศก็งอแงไม่อยากไป อยากชวนไปทำงานด้วยกันที่ใหม่ แต่สภาพแกอย่างนี้ดูยังไงก็คงยังไม่พร้อม"

อินทราก็ฟังอยู่นะ แต่ว่ายังโงหัวตัวเองไม่ขึ้น

"แกด่าฉันช้าๆ สิ ฉันจะได้ตามงงให้ทัน" คนเมาบ่น

"เอาจริงๆ นะเอริล" เฟื่องฟ้าทำซุ่มเสียงจริงจัง

"จริงๆ ฉันก็อยากให้แกไปเป็นเมียอาเสือเขาโน้นน่ะ แหละ" และด้วยประโยคนี้มันทำเอาคนที่กำลังเมาหัวทิ่มนี่ถึงกับเงยหน้าขึ้นมาพรวดจนเฟื่องฟ้าตกใจ แอบคิดสงสัยว่าครั้งนี้คงจะโดนเพื่อนรักตบเอาจนคอหักตายแล้วแน่ๆ

แต่…

"อาเสือเขามาบอกกับแกว่าเขาแอบชอบฉันหรือ?"

เฟื่องฟ้าส่ายหน้าดิก อีกครั้งที่เห็นศีรษะสวยๆ ของเพื่อนรัก...เลี้อยลงไปไถลไถเถือกกับเคาน์เตอร์หินอ่อน

"เฮ้อ.. แล้วแกจะมาพูดจาเคาะกะลาให้หมาอย่างฉันมันดีใจเก้อทำไมกันล่ะฟร่ะ!"

"นี่ ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะว่าแกก็แอบชอบอาเสือเขาอยู่" ยังคงท้าวคางก้มคุยกับหัวทุยๆ ของเพื่อนเฉ๊ย

"แล้วแกมาสนับสนุนให้ฉันไปอ่อยเขาทำไมล่ะ"

"ฉันอยากได้คนที่คุยกันรู้เรื่องมากกว่าที่จะได้ยัยป้าบ้าซีรี่ส์เกาหลีอย่างยัยลัดดามาเป็นอาสะใภ้"

"เอ๊า! แกไม่อยากได้ยัยป้านั่น แต่อาเสือเค้าอยากได้เอามานอน 'ยิ้ม' ด้วยกันนิ แล้วนั่นมันก็เกี่ยวพันกับเรื่องบนเตียงของเขา ซึ่งเราไม่มีสิทธิ์หรอกนาเว้ย" ทำรู้ดี

คนรู้ดีที่พูดจบก็กระดกเหล้าเข้าคอ หายวาบไปแล้วอีกแก้ว

แถมคนกระดกแก้วก็รู้สึกเจ็บๆ หวงๆ อย่างไรก็ไม่รู้ ทั้งๆ ที่หล่อนกับพยัคฆ์เองก็ไม่เคยได้เจอกันอีกเลยตั้งแต่จบมัธยมแล้วหล่อนก็ไปเรียนต่อ แต่เนื่องจากสมัยนั้น เวลาปิดเทอมฤดูร้อนในบางปีอินทิรามักจะไปเที่ยวบ้านที่ต่างจังหวัดของเฟื่องฟ้าและเคยเจอกันกับเขา ที่มักจะไปเที่ยวหาพี่ชายบ่อยๆ เช่นกัน และในตอนนั้นเอง พยัคฆ์ หรืออาเสือของพวกหล่อนก็ได้แต่งงานอยู่ก่อนแล้วกับกานดา แต่พอหล่อนไปเรียนต่อยังต่างประเทศได้ไม่นาน สาวน้อยก็ได้ข่าวจากที่เฟื่องฟ้ามาเล่าว่า เขาหย่ากันแล้วกับกานดาเพราะหล่อนหนีตามชู้ไป จากนั้นพยัคฆ์ก็เลยตัดสินใจผันตัวเองไปซื้อที่ทำไร่อยู่ต่างจังหวัด

จบมาอินทิราก็มัวแต่สนุกอยู่กับการทำงาน จนได้มาเจอกับอีริค ไอ้เจ้าตัวผู้เฮงซวยซังกระบ๊วยตัวนั้นนั่นแหละ! ที่ตอนนั้นมันดูมาดดี๊ดี แถมมีอายุไล่ๆ กันกับหล่อน ทั้งคู่จึงได้คุยกันง่ายและเข้ากันได้ไว ประจวบกับที่เจ้าหมอนั่นมันคารมดีซะด้วยแหละ อินทิราก็เลยหลงมันหัวปักหัวป่ำ จนหลงลืมอาเสือของเฟื่องฟ้าที่อยู่กันคนละสังคมซะแล้ว ไปซะสนิทเลย

"แล้วแกจะให้ฉันไปอ่อยเขา เกิดไม่สำเร็จฉันก็เสร็จ อาเสือของแกไปฟรีๆ น่ะสิ"

"งั้นแกก็ต้องพยายามทำให้มันสำเร็จสิ" ยังท้าวคางคุยกับเพื่อนอย่างกับทั้งสองเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สาว ๆ มาปรึกษากันเรื่องสีที่จะใช้ทาเล็บกันซะอย่างนั้น

"ก็กลัวมันไม่สำเร็จน่ะสิยะ เพราะฉันไม่เคยอ่อยใคร ซะด้วยสิ" ปากปฏิเสธ แต่เงยหน้าขึ้นมาทำตาเป็นประกาย เหมือนคนมีเกมเล่นใหม่ๆ ที่ท่าทางน่าสนุก

"ย่ะ!!" เฟื่องฟ้าจิกตาใส่ 

เห็นแค่นี้ก็รู้แล้วล่ะว่า ครั้งต่อไปหล่อนจะเจอะเจอยัยเพื่อนขาเหวี่ยงคนนี้ได้ที่ไหน

---------

หล่อนมาถึงที่นี่ ... ผิดหวังนิดหน่อยเพราะตัวเจ้าของ บ้านไม่ยักจะอยู่รอต้อนรับ พอจอดรถแลมโบกี่นี่สีเปรี้ยวจี๊ดไว้หน้าบ้าน เด็กสาวหน้าตาดีคนหนึ่งก็เดินมาบอกว่าอาเสือไม่อยู่ ไปประชุมที่ในเมืองซึ่งเกี่ยวกับพันธ์พืชที่เขาทำธุรกิจอยู่นี่แหละ แต่ได้สั่งคนจัดเตรียมห้องเอาไว้ให้แล้ว สั่งอีกว่าให้ทำตัวตามสบาย .. คงค่ำๆ นั่นละเขาถึงจะกลับ

แต่สามทุ่มกว่าไปแล้วเขาก็ยังไม่กลับเข้ามา อินทิราก็คุยเมาท์กระจายอยู่กับเฟื่องฟ้าจนรู้สึกง่วงเนื่องจากขับรถมาไกลมากกว่าจะมาถึงที่นี่จึงรู้สึกเพลีย อยากพักผ่อนนอนเร็วและขี้เกียจจะรอเขาแล้ว

หลับไปนานเท่าไรก็ไม่รู้ก็ต้องตื่นขึ้นกลางดึก ซึ่งคงเป็นเพราะความแปลกที่แปลกทาง ลุกขึ้นมาตั้งใจจะหาน้ำมาดื่ม เพราะที่นี่ไม่มีมินิบาร์ในห้องเหมือนที่บ้านของหล่อนจึงต้องเดินออกมาข้างนอก

จังหวะเดินผ่านห้องห้องใหญ่ที่หล่อนเดาได้ว่าห้องนี้คงเป็นห้องของเจ้าของบ้านเองนั่นแหละ ก็ดั๊น..ได้ยินเสียงประหลาดแต่คุ้นหูดังขึ้น 

ที่ว่าคุ้นหูดีก็เพราะรู้ดีน่ะสิว่า คนข้างในห้องนี้กำลังมีกิจกรรมทำอะไรกันอยู่

'ดูท่าทางก็ไม่ค่อยอดไม่ค่อยอยากอะไรเลยนะนี่'

เจ้าของความคิดเดินส่ายหัวโคลงเคลง 

โธ่!! เอาแล้วไงยัยมะเฟืองเน่าเอ้ย! แล้วอย่างนี้ฉันจะมีวาสนาได้มาเป็นอาสะใภ้แกไหมล่ะนี่?

ขี่ ขย่มกันซะดังปั๊บๆๆๆๆ ออกมาลั่นบ้านซะขนาดนี้

แล้วอาเสือเขากลับมาตั้งแต่เมื่อไรกันหว่า ทำไมจึงไม่ได้ยินเสียงรถเขาแล่นเข้ามาเลยล่ะ?

สงสัยหล่อนคงหลับสนิทไปเลยละสิเมื่อชั่วโมงแรกนี่ถึงไม่ได้ยินว่าเขากลับเข้ามาตอนไหน เจ้าของบ้านที่อาจเห็นว่าแขกหลับ หรือไม่บางทีเขาอาจหิ้วยัยลัดดามานอน 'ยิ้ม' ด้วยกันคืนนี้ ก็เลยไม่ได้คิดสนใจแขกที่มาอาศัยร่วมชายคาชั่วคราวอย่างหล่อนคนนี้สักเท่าไร

เดินกลับมาจะเข้าห้องก็ อ้าว!! ไม่ใช่ยัยลัดดาแฮะ! 

แต่เป็นแม่เด็กสาวคนเมื่อบ่ายที่ออกมารับใช้หล่อนอยู่เมื่อช่วงกลางวันนี้นั่นเอง 

เฮ๊อะ!! เจ้าชู้ร้ายไม่เบาเลยนี่นา...อาเสือนี่!!

เด็กนั่นไม่ทันได้เห็นหล่อน คงจะลืมดูต้นทางเพราะคงเคยชินกับการที่ไม่มีใครมาเป็นแขกพักที่นี่บ่อยๆ กระมัง

พอเดินถึงห้องก็ปิดประตูเซ็งๆ เห็นทีว่าจะต้องกลับกรุงเทพฯ เร็วกว่าที่ตั้งใจไว้แล้วซะละมัง?

เดินไปค้นก้นกระเป๋ากุ๊กกิ๊ก ๆ คว้าเอาเจ้าเพื่อนยากออกมา 

ก็ไม่ใช่อะไร ตอนที่หล่อนเดินผ่านไปได้ยินเสียงที่หน้าห้องเขา แทนที่จะผ่านเลยไปไวๆ แต่หล่อนดันเลือกที่จะหยุดฟังซะงั้นสิ! 

เสียงกระซิบกระซาบแกมหัวเราะคิกคักคิกคักๆ กับเสียงคราง 'อืออ้าๆ โห๊ะๆๆ อู้ยซี้ดดดด ซู้ดดดด อย่าแรง ค่ะคุณเสือขาอย่าแร้งงงงงง' ที่ดังมาไม่ขาดปาก มันทำให้อารมณ์ที่อดอยากมาตั้งแต่เลิกรากันกับอีริคก็เริ่มชักๆ จะกระเจิง เพราะที่ผ่านๆ มาหล่อนก็ไม่เคยมีกิจกรรมแบบนั้นกับใครอีกหรอก นอกเสียจากจะช่วยเหลือตัวเองบ้างเป็นบางครั้งโดยการพึ่งพาเจ้าวัสดุอันน่ามหัศจรรย์ สีส้มใสแปร๋นๆ ที่นิ่งอยู่ในมือหล่อนขณะนี้นี่แหละ

ที่ต้องพึ่งพาเจ้านี่เพราะอินทิราชอบการมีเซ็กซ์ก็จริง แต่หล่อนไม่ใช่คนมั่ว ไม่นิยมไปส่ำส่อนกับใครที่ไหน และก็ไม่นิยมเลี้ยงเด็กไว้ใช้งานด้วย อีกทั้งก็ยังไม่ชอบไปเสนอหน้าตามบาร์โฮสต์ หรือจะไปวันไนท์แสตนด์แบบที่เพื่อนๆ ในวงไฮฯหลายคนนิยมทำกันสักเท่าไรน่ะสิ!!

และนั่นมันก็จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลว่า ทำไมหล่อนจึงได้เฮิร์ทหนักขนาดนั้น เมื่อได้ยินคำวิพากวิจารณ์เกี่ยวกับไอ้เรื่องบนเตียงของหล่อนจากคนชมรมปากหมา ที่บังเอิญเดินผ่านแล้วได้ยินเข้าหู

ก็อยากจะช่างหัวมันอยู่หรอกนะ!! แต่คนที่มันแคร์ขี้ปาก...อย่างไรมันก็ย่อมต้องแคร์แบบห้ามไม่ได้หรอก

สุดท้าย ก็เลยต้องพึ่งเจ้าส้มใสเพื่อนยากให้มาเป็นเครื่องช่วยเพื่อบรรเทาความเหงาอยู่นี่

จริงๆ ครั้งนี้มันยังไม่ครบสูตร ขาดตุ๊กตาหมีตัวยักษ์ที่ยัยมะเฟืองเพื่อนผู้รู้ใจซื้อให้อีกตัวนะ อินทราติดจะเป็นคนค่อนข้างคิคุนิดๆ หล่อนเคยขอให้อีริคแต่งคอสเพลย์เป็นเจ้าตุกตาหมีสีน้ำตาลระหว่างที่ทำกิจกรรมกันด้วย

ดังนั้นในวันนี้ เจ้าหมีตัวนั้นมันจึงทำหน้าที่คล้ายกับตุ๊กตายางของพวกผู้ชายไปในตัว วิธีที่หล่อนจะนำเอาใช้ก็แค่เอาเจ้าส้มใสไปผูกเอวหรือไปวางไว้บนตัวมัน จากนั้นแล้วก็แค่ขี่หรือขย่ม กดปุ่ม ก็ดูจะถือว่าเป็นการผจญภัยบนเตียงนอนอีกรูปแบบหนึ่งได้ไม่เลวนักหรอก แต่เพราะหล่อนมาอยู่ที่นี่ มันคงดูไม่ดีถ้าหากจะหอบเอาเจ้าหมียักษ์นั่นมาด้วยใช่ป่ะ ไม่งั้นอาเสือก็คงต้องสงสัยว่านี่หล่อนไม่สบายเป็นไข้บ้าอะไรไปหรือเปล่า

แต่ตอนนี้เจ้าของบ้านทำหล่อนทนจะไม่ไหวแล้วล่ะ 

งั้น..งานนี้ หล่อนจะขอข่มขืนหมอนข้างของเขาแทนไปก่อนก็แล้วกันนะ!!

ถือเป็นการแก้คัน เอ้ย!! ไม่ใช่...แก้แค้น!!

โอเค๊!! แก้มันทั้งสองอย่างนี้เลยก็ได้!

บทที่ 2

ระหว่างที่เมามันอยู่บนหมอนข้าง และจินตนาการไปว่ากำลังมีกิจกรรมกับชายผู้เป็นเจ้าของมันอยู่ จนไม่ทันได้สนใจเสียงแกรกกรากที่ดังอยู่หน้าห้อง

อินทิราไม่รู้เลยจริงๆ ว่าผู้ชายคนที่ตนกำลังจินตการ ถึงซึ่งหล่อนคิดว่าเขาคงจะเพลียหลับไปแล้วหลังจากเสร็จศึกไปแล้วกับแม่เด็กสาวนั้น จึงไม่ทันคาดคิดว่าพยัคฆ์นั้น ขณะนั้นได้ลุกเดินออกมาจะหาน้ำดื่มเช่นกัน จึงทันสังเกตเห็นหล่อนเดินผ่านหน้าห้องเขาไป ก็ให้เกิดความสงสัยว่าแม่สาวน้อยคนนี้ จะแอบเห็นพฤติกรรมที่ไม่น่าเหมาะสมนี้ของเขาหรือเปล่า 

อะไรบางอย่างฉุดดึงเท้าเขาให้ก้าวตามร่างเล็กบาง แต่เวลาเดิน ... สะโพกกลมกลึงใต้ชุดนอนบางใสกลับโบกไหวๆ ราวเชิญชวน 

โธ่!! ไอ้บ้าพยัคฆ์เอ้ย! 

นั่นน่ะเด็กรุ่นหลานเชียวนะเฟ้ย!!

มีดีกรีเป็นถึงเพื่อนรักของหลานสาว ที่ยัยมะเฟืองสู้อุตส่าห์ไว้ใจฝากเพื่อนมาให้เขาดูแล แต่แกยังจะมาทำท่าน้ำลายสอเดินตามต้อยๆ อย่างนี้ได้อย่างไรกันวะนี่!!

สมภารน่ะเขาไม่กินไก่วัดกันนะ แถมไก่วัดตัวนี้ก็ดันเป็นไก่ระดับ VIP ซะด้วยสิเฮ้ย...ไอ้เสือเว้ย!!

แต่ถึงแม้จะด่าตัวเองอย่างนั้น พยัคฆ์ก็ยังมิอาจจะห้ามเท้าตัวเอง จนได้มาหยุดอยู่ที่หน้าห้องนอนสำหรับแขก 

กำลังหันซ้ายหันขวา ลังเลอยู่ว่าจะเคาะห้องทักทายหล่อนดีหรือไม่ ก็ดันได้ยินเสียงข้างในเคลื่อนไหวกุกกักๆ

ยังตัดสินใจได้อยู่นะว่า เอาไว้ทักทายกันพรุ่งนี้น่าจะเหมาะสมดีกว่า แต่เจ้าเสียงกุกกักนี่มันช่างดึงความสงสัยอะไรในใจเขาอยู่บ้างนิดหน่อย เลยลองบิดลูกบิดประตูดูเบาๆ 

อ้าว? ยัยเด็กหุ่นเซี๊ยะนี่ช่างเลิ่นเล่อชะมัด!!

จะนอนแต่กลับไม่ยักจะล๊อคห้องแฮะ

แง้มประตูแอบมอง ซึ่งพยัคฆ์นั้นไม่ได้สนใจติดตามข่าวคราวอะไรเด็กคนนี้มาก่อนหรอก จำได้แค่ว่าสมัยวัยรุ่นๆ เอริลหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มดีและมีผิวสวย แต่ตอนนั้นหุ่นของหล่อนยังดูเก้งก้างอย่างกับนกกระยางนี่นะ

สมัยนั้นก็มองแค่ว่าเอริลเป็นเด็ก และเขาเองที่เป็นผู้ที่มีรสนิยมชอบสาวหุ่นอวบๆ เต็มไม้เต็มมือ จึงไม่คิดสนใจอะไรในตอนที่ยัยมะเฟืองเล่าว่าเอริลมีเรื่องอื้อฉาวเป็นข่าวกับแฟนหนุ่มจนถึงขั้นเลิกกัน แถมยังตกงานด้วย ยัยจุ้นจึงได้เสนอให้เพื่อนหลบมารักษาแผลใจในที่สงบๆ สักพัก อีกทั้งหลานสาวก็ยังเล่าเรื่องข่าวฉาวๆ ให้เขาฟังแบบไม่ได้ปิดบัง เพราะรู้ดีว่าพยัคฆ์ไม่ใช่ผู้ชายหัวโบราณอะไร ซึ่งเขาเองก็ค่อนข้างจะเปิดกว้างในเรื่องนี้มากซะด้วย ตราบใดที่เรื่องเหล่านั้นมันยังไม่ใช่เรื่องผิดศีลธรรมแบบพรากลูกแย่งเมียใครเขามาหรือข่มแหงใจกัน ซึ่งเขาไม่มีวันทำหรือสนับสนุน 

อีกอย่าง เรื่องการถูกทรยศหักหลังจากคนที่ตนรักและไว้ใจ มันเป็นเรื่องที่บาดเจ็บสาหัสที่เขาเข้าใจดีอย่างที่เขาก็เคยเจอมากับตัวจึงค่อนข้างเข้าใจในความรู้สึกของเอริลดี ที่เสียทั้งตัว ทั้งหัวใจและชื่อเสียง แถมยังเสียความมั่นใจพ่วงท้ายมาให้อีก ดังนั้นเขาจึงเต็มใจให้ที่จะให้แหล่งพักพิงเพื่อรักษาบาดแผลเหล่านั้นแก่หล่อน

แต่ไม่ทันได้คาดคิดสักนิดนี่สิว่า จากเด็กสาวหุ่นนกกระยาง จะกลายร่างมาเป็นสาวน้อยหุ่นเซี้ยะน่าเจี๊ยะ น่าล่อ น่าฟัด สุดแรงเหวี่ยงซะขนาดนี้!! 

นี่แค่มองเห็นแต่ข้างหลังยังไม่ทันได้เห็นหน้าชัดๆ เลยนะนี่

แต่ว่า 'ไอ้เรื่องพรรณอย่างว่า' เวลาอยากขึ้นมา เรื่องหน้าตาเขาไม่เคยเกี่ยงเลยนี่นะ แต่ถ้าได้สวยๆ มันก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีต่อใจมิใช่น้อย...

ยัยมะเฟืองก็เคยส่งรูปมาให้ดูนี่หว่า แต่ทว่าตอนนั้นเขาไม่ค่อยจะสนใจอะไรเท่าไร ก็เลยไม่ได้เปิดไฟล์ดู

แล้วไอ้ที่ตอนแรกสงสัยว่าเสียงกุกกักนั่นมันคืออะไร 

ไม่ใช่หรอก 

เขากลัวว่าเผื่อเด็กคนนั้นอาจนึกจะคิดสั้น หรือเผื่อหล่อนเกิดอุบัติเหตุหรือไม่สบายจะได้เข้าไปช่วยเหลือทัน ที่ต้องมาลอบแอบมองก่อนเพราะตอนนี้มันดึกมากแล้ว มันคงไม่เหมาะหากเขาจะบุกเข้าไปคุยกับเด็กสาว ที่ก็พูดไม่ได้เต็มปากว่ารู้จักสนิทสนมกันดีอยู่ก่อน

ยิ่งในยามดึกยามวิกาล ขืนทะเล่อทะล่าเดินเข้าไป

ดีไม่ดี .... เดี๋ยวไก่จะตื่น .... 

เฮ้ย! ไม่ใช่เฟ้ย! .... เดี๋ยวเด็กจะตื่นตกใจ!!

และถึงแม้พยัคฆ์จะขึ้นชื่อว่าเป็นเสือผู้หญิง แต่เขาก็เป็นคนที่มีมารยาทในการกินอยู่นะ 

ไม่ได้โหดได้หื่น ตะกุมตะกลามไร้พิธีรีตองนักหรอก

แอบมองเด็กสาวที่เดินไปค้นกระเป๋าหยิบเอาเจ้าแท่งสีส้มใสแปร๋นออกมาแล้วหนุ่มใหญ่ก็ยืนทำตาปริบๆ 

เฮ้ย!! คุ้นๆ วะ! ไอ้แท่งนั้นน่ะ!!

มีแสงวิบวับๆ เกิดขึ้นในแววตาที่เริ่มจะมีร่องรอยย่นตรงบริเวณหางตาคมเข้มของเขาอยู่นิดๆ

เกือบจะเผลอร้องว้าวออกมาแล้ว ยังดีที่รีบหุบปากตัวเองเอาไว้ได้ทัน

งั้นอย่างนี้ที่เขาแอบสงสัยว่ายัยน่าเจี๊ยะ นี่คงบังเอิญเดินออกมาทันได้ยินเขากับเด็กราตรีที่กำลัง โรมรันเมามันกันอยู่เมื่อครู่นี้แน่ๆ ก็แปลว่าหล่อนคงยืนฟัง เพราะราตรีเป็นเด็กที่ชอบส่งเสียงดังซะด้วยสิ

เอริลก็คงเกิดอารมณ์ขึ้นมาบ้าง ก็เห็นว่าเพิ่งเลิกกับแฟนฝรั่งมาได้เดือนหนึ่งแล้วนี่ หล่อนเองก็ยังอยู่ในช่วงวัยเจริญเพศสัมพันธ์ ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่ยังคงจะมีความต้องการสูงมาก 

ยิ่งคนเคยๆ ลิ้มลองรสชาติมาแล้วแบบนั้น มันก็ย่อมจะคงติดใจในเพศรสอยู่เป็นธรรมดาด้วยละกระมัง

พยัคฆ์แอบมองอินทราช่วยเหลือตัวเองไป น้องชายของเขาเองก็ชักแข็งโด่ ทั้งที่เพิ่งจะกินอิ่มไปเมื่อครู่นี่แท้ๆ

ก็....โอ้โห.....แม่คุณเอ๋ย!! (ปาดน้ำลาย)

หล่อนเริ่มจากถอดชุดนอนซีทรูสั้นจู๋ ผ่านทางหัวทุยสวย ๆ 

ผมยาวหนาสยายสะบัดไหวจนดูน่าขยุ้ม กระชากให้หน้าหงายแล้วก็ ...

โธ่! ไอ้เสือ!! ประเดี๋ยวแกก็ได้ทิ้งหลักฐานนักถ้ำมองกองกระฉูดอยู่ตรงนี้หรอก!!

แต่มันอดใจไม่ไหวจริงๆ ที่จินตนาการเห็นปากจิ้มลิ้มอ้างับเจ้าหนูของเขาได้ไม่หมดจนต้องใช้วิธีเลียๆ ดูดๆ เอา

ซู้ดดดดด อ้าาาาาห์!! 

โอ้ย!! ไม่ไหวล้าววววว!! 

ขืนมามัวแต่ยืนส่องหล่อนที่ ขี่ ขย่ม ข่มขืนหมอนข้างของเขาอยู่ตรงนี้อีกเพียงแค่นาทีเดียว มีหวัง เขาคงต้องได้ขายขี้หน้ายัยเด็กนี้แน่!!

งั้นก็ ..... 

นิยายใต้หมอน on youtube & facebook & google อ่านนิยาย บน Android & iPhone